สำหรับขาแชททั้งหลาย วันนี้ผมมีแอพที่จะอำนวยความสะดวกในการติดต่อของคุณให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องนั่งพิมพ์ให้เมื่อยมือ และปวดสายตากันอีกต่อไปครับ เพราะแอพนี้จะทำให้การแชททำได้ง่ายๆ แค่ “ส่งเสียง” หากัน บางคนอาจบอกว่า WhatsApp ก็ทำได้ ครับ ใช่ หลักการเดียวกัน แต่ แอพที่ผมกำลังจะนำมาให้ได้ลองใช้กันนั้น จะใช้แค่ “เสียง” ในการแชทเท่านั้นครับ เท่าที่ผมได้ลองใช้ มันเร็วมากครับ ใช้งานผ่าน EDGE ได้สบายๆ และจาก “เสียง” แล้ว ยังสามารถส่ง “รูป” และ “ตำแหน่งที่อยู่” ได้ด้วยครับ แอพที่ว่านี้ก็คือ TalkBox ซึ่งใช้งานได้เฉพาะบน iPhone และ Android เท่านั้น สำหรับ BlackBerry ยังไม่มีแอพนี้นะครับ มาดูกันครับ
TalkBox สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ถ้า Android ก็ใน Market ส่วน iPhone ก็ใน App Store ได้เลยครับ (iPad และ iPod touch ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่น่าจะได้)
ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าใช้งานได้ทันที หน้าจอแรกจะมีช่องให้กรอก username และ password สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน ให้กดที่ New User เพื่อทำการสมัครเข้าใช้งานก่อนนะครับ
หน้าจอแรกของการสมัครให้ใส่ username โดย username นี่แหละ จะใช้เวลาแอดหากัน
ต่อมาจะเป็นหน้าจอให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ, นามสกุล, อีเมล์ และรหัสผ่าน ตรงรหัสผ่านพิมพ์ให้ระวังกันหน่อยนะครับ เพราะไม่มีช่อง confirm password ถ้าพิมพ์ผิด แล้วพิมพ์ใหม่เวลาที่จะ sign in และไม่ตรงกับที่ตั้งไว้ จะไม่สามารถใช้งานได้เลย
จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอเพิ่มเพื่อน โดยสามารถเพิ่มได้จากรายชื่อเพื่อนใน Contact ของเราบนเครื่อง หรือเพิ่มจากเพื่อนใน Facebook ก็ได้ แนะนำให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อนนะครับ ค่อยเพิ่มทีหลัง ให้กด Done ไปได้เลยครับ
เมื่อกด Done แล้ว จะพบกับหน้าจอแนะนำความสามารถของ TalkBox 6 อย่าง จะอ่านก็ได้นะครับ หรือจะกด Skip เพื่อข้ามไปเลยก็ได้
หากกดอ่านคำแนะนำไปจนครบ 6 ข้อแล้ว จะพบกับหน้าจอที่จะให้เราเพิ่มเพื่อนจาก Contact ให้กด Skip ไปก่อนครับ
มาถึงหน้าจอการใช้งานหลัก หรือ Recent ซึ่งปกติหน้าจอนี้จะรวมเอารายการสนทนาของเรากับเพื่อนๆ เอาไว้ครับ ซึ่งถ้าใช้งานครั้งแรก จะมีข้อความเสียงจาก TalkBox แนะนำการใช้งาน ถ้าไม่ฟังก็กดค้างไว้ แล้วลบออกได้เลยครับ สำหรับเครื่องหมายคำพูดมี + ที่ริมขวานั้น เอาไว้สำหรับเวลาจะเริ่มการสนทนากับเพื่อน เมื่อกดแล้วจะมีรายชื่อเพื่อนให้เราเลือกครับ
มาดูเมนูต่างๆ กันก่อนนะครับ ที่หน้าจอ Recent ให้กดปุ่มเมนูบนตัวเครื่อง จะมีเมนูให้เลือกดังนี้ครับ
———- Setting ———-
มาดูในส่วนของ Setting กันครับ (สามารถตั้งค่า Profile เปลี่ยนรูปประจำตัวได้ในเมนู My Account)
———- Contact ———-
สำหรับ Contact จะเป็นรายชื่อเพื่อนที่เราแอดไว้แล้ว หากยังไม่มีการแอดเพื่อน ก็จะมี 4 รายการดังนี้ครับ
Voice Tweet : คือการทวีตเสียงของเราไปยัง Twitter ของเราเอง ซึ่งสามารถทวีตได้โดยการพูดครับ โดยเมื่อทวีตเรียบร้อยแล้ว จะมีทวีตจาก TalkBox พร้อมกับลิงค์ไฟล์เสียงของเรา เพื่อนๆ ใน Twitter สามารถกดฟังได้เลยครับ
Facebook Voice Post : คือการโพสท์เสียงไปยัง Facebook ของเราครับ
Voice Broadcast : คือการส่งข้อความเสียงของเราไปยังเพื่อนๆ ทุกคนภายในครั้งเดียวครับ เอาไว้ใช้เวลามีเรื่องจำเป็นจริงๆ เท่านั้นนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการรบกวนเพื่อนได้
TalkBox Tutorial : สำหรับเข้าไปดูการแนะนำการใช้งานของ TalkBox ครับ
———- Add Friends ———-
ในการแอดเพื่อนนั้น ทำได้ 4 วิธีคือ เพิ่มจาก Contact หรือ Address Book ในตัวเครื่อง, เพื่อนใน Facebook, แอดจาก username/email ของเพื่อนกรณีที่เรารู้ว่าเพื่อนใช้ชื่อ/อีเมล์อะไร และวิธีสุดท้ายคือส่งคำเชิญไปให้เพื่อนเพื่อแนะนำให้ใช้ TalkBox
สำหรับการเพิ่มเพื่อนจาก Address Book เป็นวิธีที่สะดวกมากครับ เพราะแค่เราบันทึกเบอร์โทรของเพื่อนที่ใช้งาน TalkBox ใน Contact ของเครื่องเราแล้ว ก็สามารถสนทนากันได้ทันที หรือหากมีเบอร์อยู่แล้ว เพื่อนมาใช้ทีหลังเราก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนคนนี้ใช้งาน TalkBox ด้วย เพราะตัวแอพจะ Sync กับ Address Book ในเครื่องให้เราทันที (เหมือน WhatsApp เลยครับ)
เมื่อกด Address Book จะมีหน้าจอให้เราใส่รหัสประเทศ และเบอร์โทรของเราครับ ให้เลือกเป็น +66 แล้วใส่ 08xxxxxxxx หรือ 09xxxxxxxx จากนั้นกด Send ซึ่งจะเสียค่าบริการ SMS 1 ครั้งนะครับ
ส่วนการแอดเพื่อนจาก Facebook เมื่อกดที่ปุ่ม Facebook แล้ว จะมีหน้าจอให้เรา Sign in และกด Allow เพื่ออนุญาตให้ตัวแอพเข้าถึงรายชื่อเพื่อนของเราได้ครับ
อีกวิธีคือ ในกรณีที่เราทราบ username หรือ email ของเพื่อน ก็ให้เลือก Add friend by username/email ได้เลยครับ จะมีหน้าจอให้เราใส่ username/email ของเพื่อน เมื่อเจอแล้วก็กด Add ได้เลย
——————————————————-
มาดูในเรื่องของการแชทกันบ้างครับ จริงๆ ต้องเรียกว่าการสนทนามากกว่า เพราะเป็นการพูดไปมาๆ วิธีก็ง่ายๆ ครับ กดที่ชื่อเพื่อน ก็จะเข้าสู่หน้าจอการสนทนาทันที สำหรับวิธีพูดนั้น ให้ “กดค้าง” ที่แถบด้านล่างที่เขียนว่า “HOLD TO TALK” นั่นคือให้กดค้างไว้แล้วพูด เมื่อพูดเสร็จค่อยปล่อยมือครับ เมื่อปล่อยมือเสียงดังกล่าวจะถูกส่งไปให้เพื่อนทันที ไม่ต้องกด Send ให้วุ่นวายเลยครับ
และอย่างที่ผมบอกไว้ตอนแรกว่า นอกจากเสียงแล้ว ยังสามารถส่งรูปหากันได้ด้วยครับ ให้กดที่ปุ่มรูปกล้อง จะมีให้เลือกว่าจะเอารูปจาก Gallery หรือถ่ายรูปใหม่ก็ได้ครับ และยังส่งตำแหน่งที่อยู่ของเราได้ด้วย โดยการกดปุ่มรูปพิกัดด้านขวามือครับ
ตัวอย่างการส่งรูปและตำแหน่งเวลาสนทนากันครับ
สุดท้ายเป็นตัวอย่างการสนทนากัน ข้อความสีฟ้าเป็นข้อความของเพื่อน สีขาวเป็นของเรา หากมีจุดแดงๆ ที่ชื่อเพื่อน แสดงว่าเพื่อนคนนั้นกำลังอัดเสียงเพื่อส่งมาให้ คล้ายๆ typing status ในแอพแชทนั้นเองครับ และสามารถกดที่ตัวข้อความเพื่อฟังเสียงได้ตลอดเวลาครับ กรณีฟังไม่ทัน
เท่าที่ผมได้ลองใช้ พบว่ามันเร็วมากครับ ผมใช้งานผ่าน EDGE ใช้ได้สบายๆ ไม่ติดขัดเลย ถือว่าเป็นแอพที่อำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารได้ดีทีเดียวครับสำหรับ TalkBox แต่เสียดายมันยังไม่ครบทุก Platform มีแค่สำหรับ Android และ iPhone เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น